ฝูโจวเร่งเดินหน้าเศรษฐกิจ เปิดพื้นที่ธุรกิจสู่ระดับโลก

เมืองฝูโจวยกระดับตัวเองสู่ศูนย์กลางธุรกิจระดับนานาชาติ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งใส ทันสมัย และเป็นมิตรต่อผู้ลงทุน โดยเฉพาะในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีฝูชิงหรงเฉียว ที่กำลังกลายเป็นแหล่งรวมโครงการสำคัญจากภาคเอกชน

หนึ่งในไฮไลต์คือโครงการโรงงานผลิตกระจกรถยนต์จากบริษัทฝูเหยา (Fuyao) ที่กำลังก่อสร้างอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลาเพียงสองเดือนจากการลงนามสัญญาสู่การลงมือก่อสร้าง ด้วยงบลงทุนกว่า 3.25 พันล้านหยวน โรงงานแห่งนี้ถูกวางเป้าหมายให้เป็นฐานส่งออกกระจกรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมระบบอัจฉริยะที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์

ผู้บริหารของฝูเหยาเผยว่า ความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับภาครัฐในทุกระดับ ช่วยให้โครงการเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง แต่ฝูโจวยังมีบรรยากาศการทำงานที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างแท้จริง

เมืองฝูโจวได้พัฒนาระบบบริหารจัดการที่เน้นความชัดเจน รวดเร็ว และเข้าถึงง่าย เพื่อดึงดูดนักลงทุนและผู้ประกอบการ ภายใต้หลักการที่เน้นกลไกตลาด เคารพกฎหมาย และมีมาตรฐานระดับสากล

ในปี 2567 มีการดำเนินโครงการลงทุนจำนวน 969 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 5.94 แสนล้านหยวน โดยในจำนวนนั้นกว่า 687 โครงการได้เริ่มดำเนินการแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวม 3.033 แสนล้านหยวน

นอกจากดึงดูดนักลงทุนในประเทศ ฝูโจวยังขยายบทบาทในระดับภูมิภาคผ่านโครงการ “สองประเทศ นิคมอุตสาหกรรมแฝด” ซึ่งร่วมมือกับอินโดนีเซียในการตั้งนิคมอุตสาหกรรมคู่ขนานระหว่างสองประเทศ

โครงการนี้ส่งผลให้หลายบริษัทจีนเริ่มลงทุนในอินโดนีเซีย เช่น Saneheld (Fuqing) Food Co., Ltd. ที่ร่วมกับ Salim Group ก่อตั้งศูนย์การประมงทางทะเล โดยเริ่มผลิตแล้วตั้งแต่ปี 2565 และมีแผนขยายกำลังผลิตในปี 2568 ขณะเดียวกันบริษัทสิ่งทออย่าง Fuhua และ Honggang ก็เตรียมเปิดโรงงานทันสมัยในอินโดนีเซียในปีหน้า

ทั้งหมดนี้สะท้อนภาพความมุ่งมั่นของฝูโจวในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงทั้งในประเทศและระดับโลก พร้อมวางรากฐานสู่อนาคตที่ยั่งยืน