วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เมืองซูโจวในมณฑลเจียงซูได้กลายเป็นศูนย์กลางของการลงทุนระดับโลกอีกครั้ง กับการจัดงานประชุมส่งเสริมการลงทุนระดับนานาชาติประจำปี 2568 ซึ่งต้อนรับผู้บริหารระดับสูงและนักธุรกิจชั้นแนวหน้ากว่า 1,200 รายจากองค์กรชั้นนำทั่วโลก รวมถึงบริษัทจากกลุ่ม Fortune 500 บริษัทข้ามชาติ และบริษัทยูนิคอร์น งานนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยมีการลงนามในโครงการลงทุนถึง 417 รายการ รวมมูลค่า 3.4157 ล้านหยวน
ซูโจวเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจของจีนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยสถานะเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเงินลงทุนจากต่างประเทศสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ปัจจุบัน เมืองนี้มีเขตพัฒนาเศรษฐกิจระดับชาติถึง 14 แห่ง และเป็นที่ตั้งของบริษัทต่างชาติราว 19,000 แห่ง รวมถึงองค์กรระดับโลกอย่างบริษัท Fortune 500 ที่เข้ามาลงทุนในโครงการต่าง ๆ ถึงเกือบ 500 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุนสะสมจากต่างประเทศกว่า 1.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในแง่ของการเปิดกว้างเชิงสถาบัน ซูโจวยังเดินหน้ายกระดับกฎเกณฑ์ มาตรฐาน และระบบบริหารจัดการให้สอดคล้องกับระดับนานาชาติ พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์อย่างเป็นระบบ โดยได้จัดทำบัญชีวัสดุชีวภาพนำเข้าแบบ “บัญชีสีขาว” แห่งแรกของจีน ซึ่งช่วยลดเวลาในการผ่านศุลกากรลงถึง 70% ถือเป็นความก้าวหน้าในการยกระดับประสิทธิภาพห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ
การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับนานาประเทศเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของซูโจว ไม่ว่าจะเป็นโครงการร่วมกับสิงคโปร์ เยอรมนี ญี่ปุ่น หรือความร่วมมือข้ามช่องแคบไต้หวัน ตัวอย่างความสำเร็จ เช่น นิคมอุตสาหกรรมซูโจวที่ครองแชมป์เขตพัฒนาเศรษฐกิจระดับประเทศมา 9 ปีซ้อน และเมืองไท่ชางที่ส่งเสริมความร่วมมือกับเยอรมนีอย่างต่อเนื่องจนเป็นต้นแบบของเมืองอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างสู่ระดับโลก
ในด้านการใช้ชีวิต ซูโจวมีชาวต่างชาติพำนักอยู่ราว 30,000 คน พร้อมด้วยศูนย์บริการแบบครบวงจรที่มีบริการรองรับชาวต่างชาติถึง 21 รายการ มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และระบบผู้ช่วยด้วย AI ที่พร้อมบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ด้วยระบบสนับสนุนที่ครอบคลุมตั้งแต่การตั้งบริษัทไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เมืองซูโจวจึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่นักธุรกิจทั่วโลกเชื่อมั่นได้ว่า “ลงทุนที่ซูโจว คือการลงทุนเพื่ออนาคต”