รายงานความยาวกว่า 150,000 ตัวอักษร แบ่งออกเป็น 5 ส่วน 20 บท ได้ทำการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมถึงพลวัตโลกที่เปลี่ยนแปลงและแนวโน้มการยกระดับอุตสาหกรรม การเปรียบเทียบไห่หนานกับเกาะชั้นนำทั่วโลก พร้อมทั้งเสนอแนะนโยบายที่สร้างสรรค์ ตั้งแต่การวางแผนระดับมหภาค การกำหนดตำแหน่งแบรนด์ ไปจนถึงการสนับสนุนอุตสาหกรรมย่อยของการท่องเที่ยวมากกว่า 10 ภาคส่วน
รายงานฉบับปี 2567-2568 มีการปรับปรุงเนื้อหาให้เข้มข้นขึ้นใน 4 ประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะการผนวกเนื้อหาที่สอดรับกับกรอบเวลาการดำเนินงานศุลกากรที่เป็นอิสระของท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานในปี 2568 และขยายขอบเขตงานวิจัยให้ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวหลักทั้งหมดของมณฑล นอกจากนี้ ยังได้มีการเสริมการวิเคราะห์ด้านการท่องเที่ยวเฉพาะทางและการปรับปรุงวิธีการรวบรวมข้อมูลแนวโน้มการเดินทางแบบอิสระให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาเนื้อหาในส่วน “Digital Twin” ให้สมบูรณ์มากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือคณะวิจัยได้ยกระดับวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้แนวทาง “Digital Twin” ในการเก็บข้อมูลเชิงลึกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยตรง ทั้งการลงพื้นที่สำรวจและการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกว่า 50 ราย ครอบคลุมตลาดต้นทางสำคัญทั้งจากเอเชียกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป ซึ่งการลงพื้นที่สำรวจนักเดินทางแบบอิสระนี้ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ได้ภาพรวมตลาดที่ครบถ้วนรอบด้านที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญในวงการต่างเห็นพ้องว่า สมุดปกขาวฉบับนี้เป็นมากกว่าการสำรวจความท้าทาย แต่เป็นการต่อยอดข้อได้เปรียบเชิงสถาบันของเขตการค้าเสรี เพื่อนำเสนอแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมในการสร้างแบรนด์และการสื่อสารในเวทีสากล ซึ่งจะช่วยให้ไห่หนานสามารถคว้าโอกาสจากการเป็นท่าเรือศุลกากรที่เป็นอิสระ และยกระดับการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลสถิติที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางเดือนตุลาคม มณฑลไห่หนานต้อนรับนักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออกรวมแล้วกว่า 2 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 22.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 430,000 คน เดินทางเข้ามาด้วยนโยบายยกเว้นวีซ่า ซึ่งคิดเป็น 88.9% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด การปรับปรุงนโยบายให้พลเมืองจาก 86 ประเทศสามารถเข้าไห่หนานได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ควบคู่ไปกับการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศกว่า 70 เส้นทาง เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงหลั่งไหลเข้าสู่เกาะแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง