เสน่ห์ซีอานส่องประกายกลางกรุงอัสตานา ในงาน “ราตรีแห่งฉางอาน”

ค่ำวันที่ 21 มิถุนายน กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซัคสถาน กลายเป็นเวทีแห่งศิลปวัฒนธรรมจีน เมื่อกิจกรรม “ราตรีแห่งฉางอาน” จัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่โดยสำนักข่าวซินหัวร่วมกับรัฐบาลมณฑลส่านซี ภายใต้กรอบความร่วมมือจีน–เอเชียกลาง และงานประชุมเส้นทางสายไหมด้านการสื่อสารระหว่างประเทศ ครั้งที่ 3

เสน่ห์ซีอานส่องประกายกลางกรุงอัสตานา ในงาน “ราตรีแห่งฉางอาน”

นครฉางอาน หรือที่รู้จักในชื่อปัจจุบันว่า “ซีอาน” เคยเป็นเมืองหลวงสำคัญในประวัติศาสตร์จีนและจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม ซีอานในยุคใหม่ยังคงมีบทบาทด้านการเชื่อมต่อกับภูมิภาคเอเชียกลางผ่านเครือข่ายเที่ยวบินตรงมากที่สุด ส่งผลให้สายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและประเทศแถบนี้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในพิธีเปิด อู่ เจียง ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนนครซีอาน ได้กล่าวถึงความมั่งคั่งทางมรดกวัฒนธรรมของเมือง และแสดงความปรารถนาที่จะกระชับความร่วมมือกับประเทศในเอเชียกลาง พร้อมเชิญชวนให้มาเยือนซีอานในฐานะพันธมิตรใหม่ของการพัฒนา

การแสดงเปิดงานเริ่มต้นด้วยบทเพลงที่สื่อถึงเสียงของเส้นทางสายไหมในอดีต ต่อด้วยการอ่านบทกวีชื่อ “การเดินทางอันยาวนานของบทกวี” ซึ่งเชื่อมโยงนครฉางอานกับเอเชียกลาง จากนั้น ผู้ชมได้สัมผัสการเต้นรำพื้นเมืองคาซัค และการแสดงแสงสีที่นำกองทัพทหารดินเผามาเล่าเรื่องผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก่อนปิดท้ายด้วยเพลง “ฉางอานวอลตซ์” ที่เสริมบรรยากาศให้เบิกบานและอบอุ่นใจ

ภายในพื้นที่จัดงานยังมี “ตลาดวัฒนธรรมเส้นทางสายไหม” ให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตีกลอง การลองสวมชุดราชวงศ์ถัง การชงชาแบบอัดก้อน การชมงานศิลป์พื้นถิ่น ตลอดจนการฝึกเขียนพู่กันจีน

อาหารพื้นเมืองจากซีอาน ผลิตภัณฑ์เชิงวัฒนธรรม และงานฝีมือดั้งเดิม ล้วนสะท้อนความงดงามของยุคราชวงศ์ถัง และเสน่ห์ร่วมสมัยของเมืองในปัจจุบัน ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับเอเชียกลางอย่างลึกซึ้ง

ในงานนี้ โบลวา บรรณาธิการบริหารจากหนังสือพิมพ์ Neutral Turkmenistan ของเติร์กเมนิสถาน แสดงความชื่นชมกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยเธอประทับใจนักแสดงในเครื่องแต่งกายจีนโบราณเป็นพิเศษ พร้อมกล่าวว่า “การได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้เที่ยวจีนทริปสั้น ๆ แต่เต็มอิ่ม และฉันหวังว่าจะได้มีโอกาสสัมผัสเสน่ห์ของวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมในนครซีอานในอนาคต”