เมืองไป่เซ่อ มณฑลกว่างซี เตรียมจัดการประชุมพัฒนาวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวกว่างซี ประจำปี 2568 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและต่างชาติมาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น และเสน่ห์ของเมืองชายแดนที่ผสานภูมิประเทศสวยงามกับมรดกวัฒนธรรมอย่างกลมกลืน
เมืองไป่เซ่อตั้งอยู่ทางตะวันตกของมณฑลกว่างซี ติดพรมแดนมณฑลยูนนานและกุ้ยโจว และมีอาณาเขตเชื่อมกับประเทศเวียดนาม ทำให้เป็นเมืองชายแดนที่โดดเด่น ด้วยความงดงามทางธรณีวิทยาที่หลากหลาย ทั้งหลุมยุบ ขุนเขา น้ำตก และทะเลสาบ โดยเฉพาะหลุมยุบต้าสือเหวย ซึ่งถูกขานนามว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์หลุมยุบแห่งโลก” และแกรนด์แคนยอนถงหลิง ที่มีความยาว 3.8 กิโลเมตร พร้อมน้ำตกสูง 188 เมตร นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบหลิงอวิ๋นห่าวคุน และแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น ทะเลสาบเฉิงปี้ น้ำตกซานเตี๋ยหลิง และบ่อน้ำพุห่าน
เมืองไป่เซ่อยังเป็นแหล่งรวมกลุ่มชาติพันธุ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นชาวจ้วง ฮั่น เย้า และม้ง ซึ่งแต่ละกลุ่มสร้างสรรค์วัฒนธรรมท้องถิ่นอันมีเอกลักษณ์ ชาวจ้วงซึ่งเป็นประชากรหลัก มีเทศกาลร้องเพลง “สามเดือนสาม” ชาวม้งมีเทศกาลเทียวพั่ว และชาวอี๋มีเทศกาลคบเพลิง เมืองจิงซียังเป็นที่รู้จักในฐานะบ้านเกิดลูกบอลผ้าปักของจีน ซึ่งถูกนำมาเป็นของที่ระลึกให้กับนักปั่นจากนานาประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลระดับโลก Tour of Guangxi Road Cycling World Tour
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวชายแดน เมืองไป่เซ่อยังมี หมู่บ้านชาวจ้วงชุดดำนาโป ซึ่งชาวบ้านยังคงทำเครื่องแต่งกายสีดำเป็นหลัก รวมถึงจุดท่องเที่ยว ม้าโพนี่คิงดอม และตลาดการค้าชายแดนสุดคึกคัก ที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้านำเข้าจากเวียดนาม เช่น กาแฟและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อีกทั้งสามารถยื่นขอหนังสือผ่านแดนท่องเที่ยวเวียดนามได้เพียงใช้บัตรประชาชน
เมืองไป่เซ่อมีผังเมืองแบบ “ครึ่งหนึ่งเป็นภูเขาเขียว ครึ่งหนึ่งเป็นสายน้ำใส” นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นเลียบแม่น้ำโหย่วเจียง และลิ้มรสอาหารท้องถิ่นที่ตลาดกลางคืน เช่น ข้าวห่อไส้ หนอนข้าวผัด วุ้นดอกโลคัสท์ รวมถึง มะม่วงไป่เซ่อ ซึ่งถือเป็นของดีประจำท้องถิ่น